Unicity Thailand, ยูนิซิตี้ ไทยแลนด์ เว็บ Blog ธุรกิจ Unicity

Saturday, July 2, 2016

ขอต้อนรับทุกท่านสู่โลกของ “Passive Income”

5:02 AM


ขอต้อนรับทุกท่านสู่โลกของ “Passive Income” (รายได้จากการพัฒนาระบบ เมื่อหยุดทำงานแล้วยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง)… หากคุณเข้ามาถึง Blog นี้ได้ สิ่งหนึ่งที่อาจคาดเดาได้ คือ คุณกำลังพิจารณาถึงโอกาสในการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตของคุณดีขึ้นกว่าที่เป็น อยู่แน่ และแน่นอนคะ … ที่นี่มีคำตอบเพื่อ “ชีวิตที่ดีกว่า – Make Life Better” เพียงแต่….คุณเปลี่ยนความคิด….ชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยนไป

ขวัญมีโครงการทางธุรกิจโครงการหนึ่งที่ขวัญได้รับทราบข้อมูลมา และทำการศึกษาอย่างละเอียด และลงมือทำแล้วก็พบว่ามันเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีอย่างมาก สามารถทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้จริงภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังสามารถทำธุรกิจนี้โดยไม่ทำให้งานประจำเสียหายด้วย(ต้องมีทักษะใน การบริหารเวลาด้วยนะคะ) มาถึงตรงนี้ท่านคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมว่าโครงการนี้คืออะไร?
Happy Life Project คือโครงการที่ขวัญจะนำมาแนะนำคุณ เพราะขวัญคิดว่าโครงการนี้สามารถทำให้ความฝันในชีวิตของคุณเป็นจริงได้อย่าง แน่นอน เพราะโครงการนี้จะทำให้คุณมีความสุขแบบ 100% ครบทั้ง 3 ด้านคือ (1) รายได้ (2) เวลา (3) สุขภาพ จากรายได้ประเภท Passive Income ที่ทำให้คุณมีเวลา และสุขภาพที่ดีไปพร้อม ๆ กัน
ทีนี้ ก่อนอื่นมีสมการนึงที่เราต้องรู้จักก่อน คือ
.                                                                             X  =  Y
.                                                                    Action = Result
.                                                    ลงทุน(ลงมือทํา)   =   ผลตอบแทน
วันนี้ขวัญถามคุณแบบจริงจังเลยนะ ที่คุณเรียนมา แล้วทํางานมาจนถึงปัจจุบัน ผลลัพธ์สูงสุดที่คุณอยากได้ในชีวิตคืออะไร จากที่คุณทํา XXXX ที่ผ่านมา ตอบได้เลยคะเอาแบบไม่มีกรอบเลย …… ส่วนใหญ่มักจะตอบว่า…..อยากได้บ้าน ได้รถ พาลูกไปเที่ยว พาพ่อแม่ไปเที่ยว ไปวัด ฯลฯ…. ขวัญอยากจะบอกว่า คําตอบของขวัญก็คล้าย ๆ กันนะ … จริง ๆ แล้วที่คุณพูดมาทั้งหมด มันใช่คําว่า Happiness หรือว่า ความสุข มั้ย ? สุดท้ายจะรวยจะจน คนเราก็ดิ้นรนค้นหาคํา ๆ นี้ใช่มั้ย ?? “ความสุข” เพราะว่าเมื่อเราหาเงินได้เยอะ ๆ ก็สามารถตอบสนองความต้องการของเราที่พูดมาเมื่อกี้ได้ แล้วเราก็มีความสุข และความสุขแต่ละคนก็มากน้อยไม่เท่ากันด้วยตั้งแต่ 0-100 แต่ก็จะแปรผันตาม 3 สิ่งนี้ คือ 1. มีการเงินที่ดี 2. ต้องมีเวลา 3. ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย
คุณเห็นด้วยกับขวัญมั้ยว่า ถ้าคนเราขาดข้อใดข้อหนึ่งไป เราก็จะไม่มีความสุขจริงๆหรอก เช่น มีเงินเป็นพันล้านเลย ไม่มีหนี้ มีเวลาด้วย …. แต่เป็นมะเร็งขั้นที่ 4 อย่างนี้มีความสุขมั้ย?? หรือ มีมากเลย ทั้งมีเวลาว่างทั้งวันด้วย แต่ไม่มีตังค์เลย …… ก็ไม่เวอร์ค??  สุขภาพก็ดีอยู่แล้ว ไม่เคยป่วยเลย … แต่เวลาหายใจแทบไม่มี ยุ่งทั้งวัน วันๆถามแต่เลขาฯ ว่าวันนี้ไปไหนทําอะไร มี Case ผ่าตัดกี่โมง…โอ้โห ลูกจําหน้าแทบไม่ได้ ก็ไม่ไหวจริงมั้ย?? บางคนว่าอยู่ตัวแล้ว …… ธุรกิจก็ดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลใจในเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ภัยธรรมชาติ(น้ำก็เพิ่งท่วมใหญ่ไป) ปวดหัวเรื่องลูกจ้าง พนักงาน ฯลฯ คือ พูดง่าย ๆ คือ ยังมีความกังวลใจ และมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อยู่ นี่ก็ยังไม่ค่อยจะมีความสุขจริงๆซักเท่าไหร่ ใช่มั้ยคะ?? หรือบางคน perfect เลย ธุรกิจสําเร็จแต่ไม่เสร็จ …net profit เดือนละหลายล้าน แต่หยุดไม่ได้ หวังว่าจะให้ลูกมาสืบทอดกิจการ ลูกก็อยากทําบ้างไม่อยากทํำบ้าง บางคนลูกไม่เอากิจการของที่บ้านเลยก็มี แล้วก็ต้องมากลุ้มใจว่าจะยกกิจการให้ใครดี?? บางคนบอกว่า ชีวิตนี้พอแล้ว สุดยอดแล้ว สําเร็จในธุรกิจของตัวเองแล้ว …. แต่ก็อยากจะแบ่งปัน เพราะธุรกิจของตัวเองดีแล้ว … แต่คนรอบข้างก็ยังไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ปกติก็จะชอบบริจาค ทําการกุศลช่วยเหลือผู้คน ฯลฯ แต่ก็ยังช่วยได้แค่บางกลุ่ม และบางคน
ในธุรกิจทั่วไป 3 สิ่งนี้ (เงิน เวลา สุขภาพ) ไม่เคยมาพร้อมกัน ถ้าคุณอยู่ในฝั่ง Active Income เช่น การเป็นลูกจ้าง/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ การทำธุรกิจส่วนตัว และนี่คือสิ่งที่เราเห็นมาทั้งชีวิตเลย

———————————————————————————–
อายุ    0                        20                          40                             60 เกษียณ
.                                 <——————————————————>
.                                   ใช้เวลา 20 – 40 ปี กว่าจะทํางานเก็บเงินแล้วพักผ่อน

สมมุติว่านี่คือ เส้นทางชีวิตของคนทั่วไป จากเดิมใช้เวลา 20 ปี พึ่งพา พ่อแม่ ก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสือไปจนจบ จากนั้นใช้ชีวิตอีก 20 ปี พากเพียร ทำงานแลกเงินเพื่อให้เติบโตก้าวหน้ามีครอบครัว จากนั้นก็ใช้อีก 20 ปี เพิ่มพูน ทรัพย์สินซื้อรถซื้อบ้านเก็บออมไว้ให้ลูก รวมแล้วต้องทํางาน 20-40 ปี ถึงจะเกษียณ ใช่มั้ย ?? เพื่อจะ พักผ่อน ใช้เงินออมที่มีอยู่มากบ้างน้อยบ้างดูแลชีวิต ซึ่งบางครั้งหากทำธุรกิจแล้ว พลาดพลั้ง ก็เกษียนไม่ได้ หรือโชคร้ายอายุเกิน 60 มาหน่อยก็เจ็บป่วย ทรมาน หรือเสียชีวิตไม่ได้ใช้เงิน หรือเป็นภาระของลูกหลาน แต่ถ้าคุณวางแผนเส้นทางชีวิตของคุณใหม่ … ถ้าทํา 3 ปีไม่เกิน 5 ปี แล้วจบนะ ….. แต่ยังมี Passive Income ที่ Massive พอ ได้ เงิน+เวลา+สุขภาพไปพร้อมกัน และได้ไปจนตาย ….. ถ้าให้ได้แบบนี้จริงๆ และย้ําอีกครั้งว่าต้องพิสูจน์ได้ด้วย และบอกวิธีด้วยว่าทํำอย่างไร อย่างงี้สนใจมั้ย??

เพื่อให้เข้าใจเรื่อง Passive Income คุณต้องเข้าใจนิยามของ เงินสี่ด้าน ของ Robert T Kiyosaki ที่แบ่งอาชีพหรือที่มาของรายได้เป็น 4 กลุ่ม โดยฝั่งซ้าย เรียกว่า Active Income คือ ต้องทํางานถึงจะได้เงิน เช่น คุณหมอไม่ไปผ่าตัดไมได้ตังค์ ,MD บริษัทลางาน 2 เดือนได้มั้ย?? , ร้านขายของปิดร้านไม่ได้ตังค์ ส่วนฝั่งขวา เรียกว่า Passive Income คือ ไม่ทําก็ยังได้เงินเท่าเดิมหรือมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้ขวัญเชื่อว่าที่เราคุยกันนี้ ไม่มีใครมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ถ้ามีรายได้อีกทางเราก็ยินดีใช่มั้ย?? และอยากได้เป็นแบบ Active หรือ Passive คะ ?? ก็ต้องเป็นแบบ Passive แน่นอน และต้องเป็น Massive ด้วย คือ ต้องเยอะด้วย จริงมั้ยครับ?? ถ้ามีคนมาชวนคุณบอกว่า เรามาทํา Passive Income เดือนละ 2 หมื่นกันเถอะ ก็น้อยไปเนอะ…เราทํางานเหมือนเดิมก็ได้…ดังนั้นถ้าจะทําต้องได้เยอะด้วย 6-7 หลักขึ้นไป และที่สําคัญต้องเร็วด้วยไม่ใช่ทํา 5-10 ปี ยังได้แสนอยู่เลย ก็ไม่ไหวใช่มั้ย?? สำหรับรายละเอียดของ Happy Life Project สามารถรับชมได้จากวิดีโอด้านล่างนี้คะ



เป็นไงคะ ….หลังได้รับข้อมูลด้านบนแล้วความคิดท่านเปลี่ยนไปหรือยัง? หากท่านเริ่มเข้าใจว่าชีวิตท่านจะเปลี่ยนไปอย่างไรจากการทำงานในระบบ Passive Income ประเภท Network Marketing แล้ว ท่านคงมีคำถามว่าแล้วสินค้าและบริการประเภทไหนที่กำลัง Intrend และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูงมาก ฉันขอแนะนำ Wellness Industry” หรือธุรกิจเพื่อสุขภาพ เพราะประกอบไปด้วยตลาดหลัก 3 ตลาดที่มีขนาดใหญ่และเติบโตสูงมาก ได้แก่
(1) Health Care – ธุรกิจสุขภาพ
(2) Beauty Care – ธุรกิจความสวยความงาม
(3) Entries Aging – ธุรกิจชะลอความแก่ และการกลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาว

ฉันคิดว่าหลายคนคงคิดเหมือนฉันว่าอุตสาหกรรมนี้มีโอกาสสูงมากทางธุรกิจ และฉันมีวิดีโอให้ท่านชมอีกหนึ่งเรื่องเพื่อยืนยันโอกาสของธุรกิจนี้คะ

==================

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อมาที่ Line ID : hazerisk



Tags : Unicity Thailandยูนิซิตี้

Friday, July 1, 2016

มารู้จักกับ "เงินสี่ด้าน" คุณละ อยู่ด้านไหน...?

4:31 AM

เงินสี่ด้าน งานสี่ประเภท


E (Employee) - ลูกจ้าง

- รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน
- รายได้ตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย
- นายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ
- ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร
- ตกงานเท่ากับล้มละลาย
- อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ

S (Self-employed) - ทำธุรกิจส่วนตัว

- ขายเวลาแลกกับเงิน จ้างตัวเองทำงาน
- ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
- ขาดประสบการณ์
- เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า
- อาจจะทนทำ เพราะชอบ อิสระ แต่ไม่มี อิสรภาพ

B (Business Owner) - เจ้าของธุรกิจ

- มีทุน
- หาคนเก่งๆ มาทำงานให้
- ไม่ทำก็มีรายได้
B มีหลายประเภท
• บริษัท
• แฟรนไซน์
• การตลาดแบบเครือข่าย (เป็นช่องทางที่จะเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีความเสี่ยงน้อย)

I (Investor) - นักลงทุน

- ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน
- มองผลตอบแทนจากการปันผล ดอกเบี้ย
- ซื้อกิจการมาปรับปรุง แล้วขายต่อ

คนฝั่งซ้ายคนฝั่งขวา
มี ความกลัว เป็นตัวขับเคลื่อนมี ความฝัน (ความใฝ่ฝัน) เป็นตัวขับเคลื่อน
ยึดติดกับงานประจำพยายามสร้างงาน
รายได้จำกัดรายได้ไม่จำกัด
ไม่มีเป้าหมายในชีวิตมีเป้าหมายชัดเจน
มองเห็นอุปสรรคมองเห็นโอกาส
ไม่เข้าใจคำว่า ทรัพย์สิน หนี้สินเข้าใจคำว่าทรัพย์สิน - หนี้สิน
ทำงานเพื่อเงินใช้เงินทำงาน
คิดถึงความเสี่ยงคิดถึงความน่าเสี่ยง
ยึดติดกับสิ่งเก่าเรียนรู้สิ่งใหม่
ไม่มีแผนงานมีแผนงานชัดเจน
ดำเนินชีวิตด้วยตัวเองมีที่ปรึกษา
ชอบออกความเห็นชอบหาความจริง
ชอบมีเงินสดเยอะๆชอบมี กระแสเงินสด สม่ำเสมอ
ชอบแสดงตัวว่าเก่งชอบมองหาคนเก่ง
ชอบวิธีการชอบวิธีคิด
ชอบการเฉลี่ย (ขจัดความเสี่ยง)ชอบการจดจ่อ (Focus)
ถูกระบบความคุมความคุมระบบ
เป็นส่วนหนึ่งของระบบเป็นเจ้าของระบบ
เรียนเพื่อประกาศนียบัตรเรียนเพื่อหาความรู้
ทำงานเพื่อคนอื่นสร้างงานเพื่อคนอื่น
อยากทำบุญแต่ไม่มีงบทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส

แล้วคุณเลือกอยู่ฝั่งไหน ?


งานประจำ ไม่ทำให้ร่ำรวยได้ มีแต่หนี้ ถ้าต้องการความสำเร็จ ต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ ธุรกิจมี 2 ประเภท คือ รวยแต่หยุดทำไม่ได้ กับรวยแล้วพักได้โดยรายได้ไม่หยุด

1. กิจการใหญ่ (ซีพี , AIS)
2. เจ้าของแฟรนไชส์ (แมคโดนัลด์ , 7-11)
3. ธุรกิจเครือข่าย

- การตลาดเครือข่าย เป็นเสมือนโรงเรียนสอนนักธุรกิจ ที่ช่วยให้คุณย้ายฝั่งได้ง่าย ได้ผล และปลอดภัยที่สุด
- บริษัทเครือข่ายการตลาดที่ดีจะต้องมีระบบพัฒนาตัวคุณอย่างสมบูรณ์แบบ (โดย สอนให้คุณเป็นนักธุรกิจ เพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่สอนให้คุณเป็นเซลส์แมนหรือเพียงทำให้คุณมีรายได้ไปวันๆ บนความมั่นคงที่ไม่แน่นอน)

คนที่รวยที่สุดในโลกล้วนแสวงหา การสร้างเครือข่าย ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหางานทำ หากคุณมีความคิดสร้างสรรอันยิ่งใหญ่ หรือสินค้าอันดีเยี่ยมปานใดก็ตาม มีเพียงหนทางเดียวที่จะนำท่านสู่ความสำเร็จ คือ การใช้เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าเหล่านั้นสู่มือผู้บริโภคอย่างได้ผล






Tags : Unicity Thailandยูนิซิตี้

Tuesday, June 28, 2016

ทำไมต้อง "การตลาดแบบเครือข่าย" (NETWORK MARKETING)

4:35 AM



เป็นเรื่องที่ช็อควงการธุรกิจโลก เมื่อ 2 มหาเศรษฐีอเมริกา

1. Robert Kiyosaki เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือ Rich Dad Poor Dad

2. Donald Trump นักธุรกิจระดับ 10,000 ล้านเหรียญ

เขียนบทความร่วมกันแนะนำให้ใครก็ตามที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ให้เริ่มด้วยการทำ Network Marketing ในหนังสือ Why We Want To Be Rich และ Whe We Recommened Network Marketing

ทำไมคุณถึงแนะนำธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM ให้กับผู้อื่น ?

มีคนถามผมเสมอว่า ทำไมผมจึงแนะนำธุรกิจเครือข่ายให้กับคนทั่วไป ทั้ง ๆ ทีผมก็ไม่ได้ร่ำรวยขึ้นมาจากธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายสักหน่อย ครับ ผมมีเหตุผลอยู่หลายประการที่ทำเช่นนี้ และนี่แหละครับคือที่มาของหนังสือเล่มนี้

โอกาสที่ 1 : โอกาสในการเรียนรู้ธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณไม่ใช่เรื่องเงินพวกเขามักจะเล่าถึงคนที่สามารถทำเงินได้ถึงหนึ่งแสนเหรียญต่อเดือน จากธุรกิจของเขาให้ฟังอย่างตื่นเต้น และผมก็ได้เคยพบกับคนเหล่านั้นจริง ๆ มาแล้วด้วย ผมจึงไม่มีความสงสัยในศักยภาพของการสร้างรายได้มากมายจากธุรกิจเครือข่ายเลย

โอกาสที่ 2 : โอกาสในการเปลี่ยนมาอยู่ด้านขวาของเงินสี่ด้าน แทนที่จะเป็นแค่เพียงเปลี่ยนงานคุณเคยได้ยินคนพูดประโยคต่อไปนี้บ่อยแค่ไหน

1. "ผมอยากจะหยุดทำงานเสียที"
2. "ฉันเบื่อแล้วกับการเปลี่ยนงาน"
3. "ผม อยากจะมีรายได้มากกว่านี้ แต่ผมก็ไม่อยากลาออกจากงานและเริ่มต้นใหม่อีก แล้วผมก็ไม่อยากกลับไปเรียนหนังสือเพื่อศึกษาวิชาชีพใหม่ ๆ อีก"
4. "ทุกครั้งที่เงินเดือนขึ้น ภาษีก็ขึ้นตามทุกที"
5. "ผมทำงานหนักมากแต่เจ้าของบริษัทรวยอยู่คนเดียว"
6. "ผมทำงานหนักมาก แต่ผมก็ยังมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ผมคงต้องวางแผนเรื่องการเกษียณของผมใหม่"
7. "ฉันกลัวว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะทำให้ฉันเป็นคนล้าสมัยไปเสียแล้ว"
8. "ฉันแก่เกินไป แล้วก็ไม่สามารถทำงานหนักเช่นนี้ต่อไปได้อีกแล้ว"
9. "ผมเรียนจบทันตแพทย์ แต่ผมก็เบื่อที่จะเป็นทันตแพทย์แล้ว"
10. "ผมเพียงแต่ ต้องการหาอะไรใหม่ ๆ ทำและได้มีโอกาสพบกับคนกลุ่มใหม่ ๆ บ้าง ผมเบื่อที่จะต้องทำงานกับคนที่ไม่มีความกระตือรือร้นและก็ไม่มีเป้าหมายใน ชีวิต ผมเบื่อที่จะต้องทำงานกับคนที่ทำงานไปวัน ๆ แบบเช้าชามเย็นชามและไม่อยากที่จะทำงานกับบริษัทที่จ่ายเงินให้กับเราเพียง แค่ทำให้เราพออยู่ได้เท่านั้น"

โอกาสที่ 3 : โอกาสที่จะเข้าสู่ด้าน B(เจ้าของกิจการ) ด้วยต้นทุนในการเริ่มต้นและการดำเนินการต่ำกว่า

ในระหว่างที่ผมได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจและการลงทุนให้กับผู้ฟังกลุ่มหนึ่งที่โบสถ์ ก็มีคนคนหนึ่งถามผมขึ้นว่า "ถ้าด้าน B ดีกว่าด้านอื่นมากถึงขนาดนี้ ทำไมคนส่วนใหญ่จึง ไม่มีเริ่มต้นกันที่ด้าน Bเสียเลย"
มันก็คงจะไม่ใช้เรื่องง่ายเลยที่จะตอบคำถามนี้ และถ้าจะตอบเอาแบบง่าย ๆ ว่า "เพราะต้นทุนมันสูง" คำ ตอบนี้ก็อาจจะไม่ได้ให้ความหมายถึงเรื่องต่าง ๆ อีกหลายเรื่องที่ครอบคลุมกว้างกว่าเรื่องของเงินมากที่เดียว มีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่จะต้องทุ่มเทเข้าไปเพื่อสร้างธุรกิจในด้าน B นี้

โอกาสที่ 4 : โอกาสที่จะได้ลงทุนในธุรกิจประเภทเดียวกันกับที่คนรวยทำ

ช่วยแนะนำผมหน่อยได้ไหมครับว่าจะมีวิธีลงทุนในอสังหาริม-ทรัพย์อย่างไรโดยที่ไม่ต้องใช้เงินดาวน์ ?

โอกาสที่ 5 : โอกาสในการสร้างความฝันให้เป็นจริง พ่อรวยของผมเคยพูดว่า "มีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่มีความใฝ่ฝันอะไรเลย"

"เพราะอะไรเหรอครับ" ผมถาม : ก็เพราะว่าความฝันเป็นสิ่งที่มีต้นทุนจุดประกายความใฝ่ฝัน คิมภรรยาของผมและตัวผมเอง ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานสังสรรค์ที่ผู้นำระดับสูงในธุรกิจเครือข่ายท่านหนึ่ง จัดขึ้นที่คฤหาสน์ของเขาซึ้งมีพื้นทีถึง 17,000 ตารางฟุต ในโรงรถของเขาก็มีรถจอดอยู่ถึง 8 คัน และหนึ่ง ในนั้นก็เป็นรถลิมูซีน นอกจากนี้ในโรงรถของเขาก็ยังมีบรรดาของเล่นของเขาเก็บอยู่ด้วย ตัวบ้านและของเล่นของเขาเป็นสิ่งที่ประทับใจผมที่เดียว แต่สิ่งที่ประทับใจผมมากที่สุดก็คือ ชื่อถนนที่บ้านเขาตั้งอยู่เป็นชื่อถนนโดยใช้ชื่อสกุลของเขา

เขาตอบว่า : ง่ายมาก ผมบริจาคเงินสร้างโรงเรียนประชาบาล สร้างห้องสมุด ทางการก็เลยตั้งชื่อถนนให้เป็นเกียรติกับผม! คำตอบนั้นเองทำให้ผมรู้ว่าความฝันของเขานั้นใหญ่กว่าของผมมาก ผมยังไม่ เคยมีความฝันที่จะมีชื่อสกุลของผมเป็นชื่อถนน หรือบริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียน สร้างห้องสมุดแบบนี้เลย เมื่อกลับจากบ้านของเขาในคืนวันนั้น ผมตระหนักดีว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องเพิ่มขนาดความฝันของผมสักที

โอกาสที่ 6 : คุณค่าของธุรกิจเครือข่ายวัดด้วยอะไร

ในปี 1974 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมกำลังทำงานอยู่กับบริษัทซีร็อกซ์ที่ฮาวาย ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการขายเครื่องแฟกซ์ของซีร็อกซ์เพราะว่าทันเป็นสินค้าใหม่ และที่ยากไปกว่านั้นก็คือคำถามที่ว่า กิจการ ทุกแห่งจะต้องมีเครื่องแฟกซ์อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง คุณค่าของเครื่องแฟกซ์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อเครื่องแฟกซ์เกิดโยงใยกลายเป็น เครื่องข่ายขึ้นมา และการขายก็คำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

มี ใครที่ซื้อเครื่องนี้ไปแล้วบ้าง พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ถึงคุณมีเครื่องแฟกซ์แต่ถ้าคนอื่นเขาไม่มีกัน ก็ไม่มีความหมายอะไร กล่าวคือคือเราจะต้องมีเครือข่ายของเครื่องแฟกซ์ แต่หลังจาก 10 ปีผ่านไป วันนี้มีผู้คนใช้เครื่องแฟกซ์ก็มีมากขึ้น

โอกาสที่ 7 : คุณค่าที่คุณประเมินตัวเองจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่คุณเป็นได้อย่างไร

ระหว่างที่ผมกำลังบรรยายเรื่องการเริ่มต้นและการสร้างธุรกิจก็มีผู้เข้ารับการอบรมคนหนึ่งถามผมว่า ผมเห็นว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่สำคัญผมจึงได้ให้เวลากับการตอบคำถามนี้มากหน่อย และหลังจากที่ได้ใคร่ครวญสักครู่หนึ่งแล้วผมก็ตอบว่า

โอกาสที่ 8 : โอกาสในการพัฒนาทักษะผู้นำของคุณ

ผมยังจำได้ดีสมัยที่ผมเป็นเด็ก เฝ้ามองพ่อจนของผมยืนพูดอยู่บนเวทีด้วยความมั่นใจและจริงใจเพื่อกล่าวต้อง รับบรรดาคุณครูที่เพิ่มได้รับการบรรจุเข้ามาอยุ่เขตการศึกษาของท่านในแต่ละ ปี ผมมีความรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เห็นว่าคุณครูทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งฟังอย่างตั้งใจและหลายครั้งเช่นกัน ผมก็ได้มีโอกาสเฝ้าดูพ่อรวยของผมยืนพูดอยู่บนเวทีกับลูกจ้างนับร้อยในงาน เลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทของท่านนอกจากนี้ผมก็บยังเคยมีโอกาสนั่งอยุ่หลัง ห้องประชุมในขณะที่พ่อรวยของผมกำลังกล่าวคำปราศรัยเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของธุรกิจของท่านต่อคณะกรรมการบริหารและบรรดาพวกผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัทของท่าน เหตุที่ทำให้ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายยังคงเติบโตต่อไป อนาคตของธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายดูออกจะสดใสมากยิ่งขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในทุกวันนี้มีแนวโน้มที่จะ ช่วยผลักดันผู้คนให้เข้าสู่ธุรกิจ ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
1. ผู้คนต้องการที่จะมีอิสรภาพมากขึ้น
2. ผู้คนต้องการความร่ำรวยมากขึ้น
3. กองทุนเงินเกษียณอายุกำลังจะถูกยกเลิก
4. ผู้คนจะตระหนักมากขึ้น
5. โลกก็จะตื่นตัวขึ้น
6. การตกต่ำอาจจะไม่เกิดขึ้น

เพื่อที่จะเปลี่ยนวิธีการคิดเกี่ยวกับเรื่องการเงินจากภายใน คำตอบของผมก็คือ มีหลายวิธีด้วยกันที่เราจะหาพี่เลี้ยงให้กับตัวเองได้ สำหรับตัวผมเอง ผมมีพี่ เลี้ยงอยู่หลายคนด้วยกันและพี่เลี้ยงที่เยี่ยมที่สุดที่ผมได้พบก็คือ ห้องสมุดเทปของไนติงเกล-โคแนนต์ ในปี 1974 เมื่อลาออกจากกองทัพเรือและสมัครเข้าทำงานกับริษัทซีร็อกซ์ ผมตระหนักดีว่า ผมจำ เป็นต้องเรียนรู้ทักษะผู้นำแบบใหม่ ทั้ง ๆ ที่ทักษะผู้นำที่ผมได้เรียนรู้จากกองทัพเรือจะเป็นสิ่งที่มีค่าเหลือประมาณ ก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในโลกของการดำเนินธุรกิจ


รู้จักธุรกิจเครือข่าย

ธุรกิจกิจเครือข่าย คืออะไร ทำไมคนจึงหลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างมากมาย ?

ปัจจุบันมีรูปแบบวิธีการดำเนินธุรกิจ ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะเรียนรู้มันด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยทราบมาก่อน หรือไม่ เมื่อพูดถึงการทำการค้า หลายคนนึกถึงว่าต้องใช้เงินทุนมาก, ต้องจ้างแรงงานจำนวนมาก, ต้องผลิตสินค้า, ต้องมีโรงงาน, ต้องมีทำเลหน้าร้าน ฯลฯ จึงจะทำให้พวกเราส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองสักที เพราะขาดเงินทุน ขาดคนมีฝีมือที่ไว้วางใจได้ ณ.วันนี้ธุรกิจที่ทุกคนมีสิทธิ์ทำให้ฝันของตนเป็นจริงได้เกิดขึ้นแล้ว เราเรียกว่า "ธุรกิจเครือข่าย"

ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ?

ธุรกิจเครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้า ของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำ ธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็น การโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิม ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค

เมื่อเกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าโฆษณาได้มาก ซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ไปใช้ทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับ ผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามส่วนที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายนี้ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบใหม่ นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวในระบบ ธุรกิจแบบเดิม

โดยการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภค ที่ใช้วิธีการแนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดแบบทั่วๆไป คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้แบบไม่จำกัด จำนวน โดยอาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จากคน 1 คนแนะนำให้กับคน 2 - 3 คนและแต่ละคนของ 2 - 3 คนบอกต่อกับคน 2 - 3 คนต่อๆไป ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภค ในลักษณะพหุคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด


โอกาสการเปลี่ยนแปลงชีวิตสู่การมีอิสรภาพทางการเงินและเวลา

หนังสือ ชุดพ่อรวยสอนลูก เล่มที่ 2 "Cashflow Quadrant" หรือ "เงินสี่ด้าน" ของ Robert T. Kiyosaki ได้กล่าวไว้ว่า คนในโลกแบ่งตามที่มาของรายได้ที่เขาได้รับออกเป็น 4 ด้านคือ

ด้านที่ 1 ) ลูกจ้าง ( Employee ) คือผู้ที่มีรายได้จากค่าจ้าง, เงินเดือน
ด้านที่ 2 ) ธุรกิจส่วนตัว ( Self - employed ), เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ( Small Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากการทำงานของตนเองหรือกิจการของตนเองโดยเจ้าของกิจการจะต้องเป็นผู้ลงมือทำหรือดูแลด้วยตนเอง
ด้านที่ 3 ) เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ( Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากทรัพย์สินของตน, โดยใช้เวลาและแรงงานของผู้อื่นสร้างรายได้ให้กับตน
ด้านที่ 4 ) นักลงทุน ( Investor ) คือผู้ที่ใช้เงินทำงานแทนตนเอง เพื่อสร้างผลตอบแทนหรือรายได้ให้กับตนโดยไม่ต้องทำเอง

โอกาสที่ดีที่สุดอยู่ที่การตัดสินใจเลือกทางเดินของคุณ

ในทุก ๆเช้าของวันใหม่ที่เราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรายังต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ เหมือนๆกับทุกๆวันที่ผ่านมา คือต้องตื่นแต่เช้า ออกจากบ้าน ผจญกับปัญหาจราจร เพื่อไปให้ทันเข้างาน ตอกบัตรเข้าทำงาน แล้วก็ทำงานตามภาระรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย พบเจอกับความเครียดต่างๆในการทำงาน ตอนเย็นเลิกงาน ตอกบัตรออก ผจญกับปัญหาจราจรอีกครั้ง กลับถึงบ้าน แล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และเตรียมพบกับวันใหม่ที่ดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆ เป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน เราเคยสังเกตบ้างหรือไม่เราทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร? เพื่อที่จะให้สามารถดำรงชีวิตผ่านไปได้วันๆหนึ่งเท่านั้นเองหรือ ? เราต้องการชีวิตที่เป็นแบบนี้จริงๆหรือ ? ผมเชื่อมั่นว่าคนเราทุกคนมีความฝัน อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน แล้วทำไมไม่ลองหาทางที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณไปสู่รูปแบบของการใช้ชีวิตแบบ ใหม่ในแบบที่คุณอยากเป็น

มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า "เดินทางร้อยลี้ต้องมีก้าวแรก" หากคุณต้องการเริ่มต้นสร้างความสำเร็จให้กับชีวิต ด้วยเส้นทางที่สามารถสร้างความฝันของคุณให้เป็นจริงได้ ภายในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานเกินไป ธุรกิจเครือข่ายจะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดเส้นทางหนึ่ง ที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงเสมอ หลังจากนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ เมื่อคุณได้มีโอกาสอ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว และต้องการจะใช้โอกาสที่ดีนี้เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินและเวลาให้กับตัว คุณเองและคนที่คุณรัก


จุดเด่นของธุรกิจเครือข่าย (Networking System)

1. คือ Win - Win Business (ธุรกิจที่ชนะชนะ ) เมื่อคนที่ท่านแนะนำธุรกิจ (ลูกทีมของท่าน) สำเร็จ ท่านในฐานะผู้แนะนำ.... จึงจะ.... สำเร็จด้วย

2. คือ No - Risk Business (ธุรกิจที่ไม่มีความเสี่ยง) ด้วยขนาดเงินลงทุนต่ำ แต่ใช้สัมพันธภาพสูง ใช้เวลาพอควร ท่านไม่ต้องลงทุนสร้างทรัพย์สิน อาคาร, อุปกรณ์, ที่ดิน (บนกองหนี้สิน)
แต่ท่าน.... กำลัง....สร้าง ทรัพย์สินคือ เครือข่ายประชากร (People Assets) ที่.... ผูกโยง กันด้วยสัมพันธภาพ
และ.... ได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินบนบันทึกข้อตกลง ผลประโยชน์ร่วมกัน!
และ.... ผลตอบแทนนี้ได้มาจาก ผลรวมของทั้งเครือข่าย
บางคน.... เรียกผลตอบแทนนี้ว่า Passive Income
(รายได้ที่ไม่ต้องลงแรงด้วยตนเอง แม้ว่าคุณจะหยุดทำงาน แต่รายได้ ของคุณยัง เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดเวลา)

3. เป็นธุรกิจที่ท่านสามารถเลือกเวลาทำงานตามใจปรารถนา ไม่ต้องตอกบัตรเข้างาน 8.00 น. ไม่ต้องตอกบัตรออกงาน 17.00 น. ไม่ต้องยื่นใบลากิจ, ลาพักร้อนกับใคร นอกจากขออนุญาติตัวเอง! เป็นเจ้านายงานในเวลาของตนเอง (Time Freedom) นั่นคือ... มีอิสระภาพทางเวลา!

4. เป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในทิศทางใหม่ของโลก เพื่อให้ท่านได้มีเวลา อยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น (Home Based Business) เพราะ ธุรกิจนี้ทำบนโต๊ะอาหารภายในบ้านของท่าน และบ้านของคนใน เครือข่ายได้

5. เป็นระบบที่เสริมสร้างโอกาสให้ ได้ร่วมทำงานกับ คนหลากหลาย อาชีพ, หลากหลายประสบการณ์, หลากหลายวัฒนธรรม (Multi Experience - Multi Profession - Multi culture) บนความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเป็นเจ้านาย-ลูกน้อง
ทุกคน คือ สมาชิกอิสระ (Distributor) ภายในระบบธุรกิจมีการ.... ถ่ายทอด.... องค์ความรู้ในวิชาชีพ
องค์ความรู้ในผลิตภัณฑ์.... จิตวิญญาณที่ปลุกพลังแห่งความสำเร็จ ลงไปเป็นชั้น ๆ ต่อ ๆ กัน ไม่รู้จบ

6. เป็นธุรกิจที่ต่อเชื่อมท่านเข้ากับธุรกิจ ข้ามชาติระดับโลกท่านไม่ต้องสร้างระบบใหม่ ด้วยตนเอง แต่ดำเนินตาม, ปฏิบัติตามแบบแผน ธุรกิจ (Business - format) ที่วางไว้อย่างดีเป็นแบบเดียวกันทั่วโลก (บางคนเรียกว่าเครือข่ายของแฟรนไชส์ ระดับเล็กๆ หรือระดับบุคคล มาผูกโยงเชื่อมกัน (Network of Micro or Personal Franchisee) แต่ไม่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้ (Royalty fee) ใดๆ เลย

7. เป็นระบบธุรกิจเดียวที่มีผลกำไรงอกเงย ขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง/วัน ตลอด 365 วัน/ปี แม้ท่านเองจะหยุดพักผ่อน, หยุดพักร้อน เพราะเวลาทำงานภายในเครือข่ายของท่าน อาจอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ท่านนอนหลับ หรือกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ท่านหยุดพักร้อน

8. เป็นระบบธุรกิจเดียวที่ผลงานแห่ง ความพากเพียร ของท่าน วันละ 2 ชั่วโมง สามารถทวีคูณไปเป็น วันละ 2,000 ชั่วโมง, 20,000 ชั่วโมง.... แปรผัน.... ตามความใหญ่โตของ เครือข่ายของท่าน
และ.... เมื่อท่านสามารถสร้างสินทรัพย์ (People Assets) เครือข่ายอย่างมีคุณภาพ ท่านก็สามารถทำงาน เต็มที่เพียง 3 - 5 ปี เพื่อรับบำนาญติดต่อกันไปตลอดชีวิต

หาก ท่านเป็นลูกจ้าง (Employee) มีรายได้จาก เงินเดือนเป็นหลัก ท่านอาจต้องทำงาน 35 ปี (60-25) เพื่อรอกินบำนาญเพียงเล็กน้อยต่อไป 5-15 ปี (หลังอายุ 60ปี)
หากท่านเริ่มงานด้วยเงินเดือนเริ่มต้น เดือนละ 7,000 บาท และโชคดีเงินเดือนของท่าน
ได้รับการปรับเพิ่มทุกๆ ปีๆ ละ 5-10%
เมื่อทำงานติดต่อกันถึง 35 ปี.... ท่านจะได้รับเงินจากผลงานทั้งชีวิต (420 เดือน)รวมประมาณ 7 ล้านบาท
แต่ท่านทราบไหม? ว่า เงิน 7 ล้านบาทนี้ ท่านอาจสร้างขึ้นได้จากธุรกิจระบบเครือข่าย
(หากครบองค์ 5 : บริษัทมั่นคง, ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี แผนธุรกิจดี, แนวโน้มเศรษฐกิจเอื้ออำนวย, อยู่ในเวลาและโอกาสอันเหมาะสม)ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี หรือไม่ถึง 5 ปี


ธุรกิจเครือข่าย (MLM) ที่ดี การเลือกที่ครบ 7 องค์ประกอบของโอกาส

หลักในการเลือกว่าบริษัทไหนที่เราควรจะร่วมทำด้วย บริษัทนั้นจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาต่างๆ ดังที่ Mr.Peter Ducker กูรูชื่อดังในธุรกิจ MLM ได้กล่าวเอาไว้ว่า ธุรกิจเครือข่ายที่ดี ที่ควรเข้าร่วมด้วย จะต้องมีคุณสมบัติพร้อมครบ 7 อย่างดังนี้

1. บริษัท (Company) บริษัทต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง
2. ผลิตภัณฑ์ (Products) ผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์จุดขายเหนือคู่แข่ง
3. แผนธุรกิจ (Plan) แผนรายให้ผลตอบแทนอย่างยุติธรรม และมีรายได้ที่คุ้มค่า มั่งคั่ง
4. แนวโน้ม (Trends) สินค้ามีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต
5. จังหวะเวลา (Timing) ช่วงเวลาต้องอยู่ในช่วงที่เริ่มต้นไม่นาน และอยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโตอย่างยิ่งยวด
6. ทีมงาน (Team) ผู้นำมีีความเป็นมืออาชีพ จริงใจ และช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จได้จริงๆ
7. ทีมผู้บริหาร (Management) ผู้บริหารมืออาชีพ วิสัยทัศน์ก้าวไกล มีประสบการณ์มายาวนานในด้านธุรกิจเครือข่าย


Tags : Unicity Thailandยูนิซิตี้

Sunday, June 26, 2016

FAQ : ถาม - ตอบ ปัญหาคาใจ ?

4:49 AM

ทำไมถึงต้องธุรกิจเครือข่าย ?

- ลงทุนต่ำ
- ไม่ต้องใช้ความรู้มาก มีระบบสอนธุรกิจ
- ไม่ต้องใช้ประสบการณ์มาก
- ความเสี่ยงต่ำ
- ไม่มีเพดานรายได้(ตอบโจทย์คนที่อยากรวยได้)
- มีอิสระทางการเงิน
- ไม่มีใครเป็นเจ้านายคุณ Upline ไม่สามารถสั่งให้คุณทำงานได้
- สามารถเกษียนตัวเองได้
- มีเวลาไปเที่ยว โดยที่มีรายได้เข้า เเม้หยุดทำงาน
- สามารถตกทอดเป็นมรดกได้

ทำไมต้อง Unicity ?

- บริษัทมีการวิจัยต่อยอดกันมากว่า 100 ปี
- รวมเอา 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก(Rexall and Enrich) มารวมกันเป็น Unicity มีความมั่นคงสูงมาก
- เป็นบริษัทที่มีรายได้มากที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลก แล้วเข้า ตลาดหุ้น NASDEQ
- เปิดแล้วทั่วโลก 14 ประเทศ และกำลังจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา
- หุ่นจำลองร่างกายมนุษย์ มี 2 ตัวในโลก ตัวนึงอยู่ที่องค์การอนามัยโลก อีกตัวนึงอยู่ที่เรา!!!
- แผนการตลาดที่ยุติธรรมที่สุด ใช้้เวลาน้อยในการประสบความสำเร็จ
- มีระบบสู่ความสำเร็จ UNIPOWER ซึ่งจะทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
- การขึ้นตำแหน่ง ใช้แค่ 3 สายงาน
- ผลิตภัณฑ์ของ Unicity สามารถใช้แทนยาเคมีได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียง
- ได้เข้าไปบรรจุอยู่ในหนังสือคู่มือสั่งจ่ายยาของแพทย์ทั่วโลก(PDR)
- โรงพยาบาลในไทยนำผลิตภัณฑ์ของ Unicity เข้าไปสั่งจ่ายแทนยาเคมีหลายโรงพยาบาล เช่น บำรุงราษฎร์ กล้วยน้ำไท โรงพยาบาลเวชประสิทธ์(ขอนแก่น)

ทำไมต้องตอนนี้ ?

- แนวโน้มธุรกิจ อีก 5-10 ปีข้างหน้ามาทางสุขภาพแน่นอน


Tags : Unicity Thailandยูนิซิตี้

Saturday, June 25, 2016

มารู้จักกับ "ยูนิซิตี้" (UNICITY) กันเถอะ

8:14 AM










- บริษัทมีการวิจัยต่อยอดกันมากว่า 100 ปี
- รวมเอา 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก(Rexall and Enrich) มารวมกันเป็น Unicity มีความมั่นคงสูงมาก
- เป็นบริษัทที่มีรายได้มากที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลก แล้วเข้า ตลาดหุ้น NASDEQ
- เปิดแล้วทั่วโลก 14 ประเทศ และกำลังจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา
- หุ่นจำลองร่างกายมนุษย์ มี 2 ตัวในโลก ตัวนึงอยู่ที่องค์การอนามัยโลก อีกตัวนึงอยู่ที่เรา!!!
- แผนการตลาดที่ยุติธรรมที่สุด ใช้้เวลาน้อยในการประสบความสำเร็จ
- การขึ้นตำแหน่ง ใช้แค่ 3 สายงาน
- แนวโน้มธุรกิจ อีก 5-10 ปีข้างหน้ามาทางสุขภาพ
- Unicity เพิ่งเข้ามาในไทย แค่ 5 ปี เรายังอยู่ต้นสายและอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด
- มีศูนย์จำหน่ายเพียงไม่กี่จังหวัดทั่วประเทศ เป็นโอกาสที่คุณจะตั้งศูนย์จำหน่ายของจังหวัด
- สามารถตกทอดเป็นมรดกได้
- ไม่ใช่งานขายที่ทุกคนกลัว คนที่ขายจะไม่รวยในธุรกิจนี้
- ผลิตภัณฑ์ของ Unicity สามารถใช้แทนยาเคมีได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียง
- ได้เข้าไปบรรจุอยู่ในหนังสือคู่มือสั่งจ่ายยาของแพทย์ทั่วโลก(PDR)
- โรงพยาบาลในไทยนำผลิตภัณฑ์ของ Unicity เข้าไปสั่งจ่ายแทนยาเคมีหลายโรงพยาบาล เช่น บำรุงราษฎร์ กล้วยน้ำไท โรงพยาบาลเวชประสิทธ์(ขอนแก่น)

รวมคลิป VDO ข้อมูล"ยูนิซิตี้" คลิ๊ก!!

และที่สำคัญเรามีระบบสู่ความสำเร็จ UNIPOWER ซึ่งจะทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
- เป็นโรงเรียนสอนขั้นตอนในการทำธุรกิจ
- จัดทำสื่อและเครื่องมือช่วยในการทำธุรกิจ ในรูปแบบ cd, vcd, แคตตาล๊อคสินค้า
- จัดประชุม OPP, Super OPP, Training
- งานประดับเข็ม และประกาศเกียรติคุณ

------------------------------------------------------------------------------

Physicians' Desk Reference Edition 2010 (PDR)

หนังสืออ้างอิงทางวิชาการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก

หนังสือ PDR เป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือที่สุด สำหรับแพทย์ในการสั่งจ่ายยาหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงาน คุณะกรรมการอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกาให้กับคนไข้ มีการค้นหาและใช้ข้อมูลอ้างอิงจาก PDR โดยบุคลากรทางการแพทย์จำนวนหลายล้านครั้งในแต่ละสัปดาห์ และหนังสือ PDR ฉบับปี 2010 นี้จะถูกส่งไปยัง แพทย์ในสหรัฐอเมริกากว่า 5 แสนคน รวมถึงเภสัชกรในระดับหัวหน้าประเทศอีกด้วย โดยที่บุคลากรทางการแพทย์กว่า 90 % ให้ความสำคัญอย่างมากกับ PDR อย่างมาก ในฐานะที่เป็นแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และมั่นใจได้ว่า พวกเขาได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับคนไข้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของยูนิซิตี้ ที่ได้รับการคัดเลือกและรับรองสรรพคุณลงพิมพ์ใน PDR 


------------------------------------------------------------------------------

คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ที่ปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของยูนิซิตี้

Dr.Jerry Bresnahan,M.D.
International Medicine and Cardiology
แพทย์ผู้เชียวชาญด้านหัวใจและแพทย์ประจำตัวของประธานาธิบดีสหรัฐและสมเด็จพระสันตปาปา


Sylvester A. Domme, JR., MD, FAAFP, FAEP
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและชุมชน


Arthur D. Hagan MD,FACC
แพทย์ผู้เชียวชาญด้านหัวใจ


Dr.Neal Secrist, MD, DO
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมรรถนะทางการบิน F16,USA


Stewart A. Lonky, M.D., F.A.C.P., MBA
Special Advisory to the Board
แพทย์ผู้เชียวชาญระบบทางเดินหายใจและโรคปอด


Richard H. Nalick MD, FACOG, FACS
สูตินารีแพทย์ผู้เชียวชาญเกี่ยวกับกลุ่มสตรี


Janet Bloom
ผู้เชียวชาญและที่ปรึกษาทางกลยุทธ์เวชศาสตร์การแพทย์


Lori Finlay Hamilton, MS, APRN, BC
Nurse Practitioner, Integrative Healthcare Consultant
ผู้เชี่ยวชาญทางสูตินารีเวช

------------------------------------------------------------------------------

THE STORIES: กว่า 100 ปีแห่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ

เร็กซอล(Rexall)
1903: จัดตั้งบริษัทที่ มลรัฐบอสตัน สหรัฐอมเริกา เป็นผู้ผลิตวิตามินรายเเรกของโลก1978: วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามร้านขายยา1990: เปลี่ยนรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็นแบบขายตรง1991: บริษัทมียอดจำหน่ายในอัตราการเจริญเติบโต 340%1993: เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ1999: ได้รับการยกย่องจากนิตยสารฟอร์จูน(Fortune) ว่าเป็นบริษัทที่มีการขยายตัวเร็ว


เอนริช อินเตอร์เนชั่นแนล(Enrich International)
1972: เป็นบริษัทแรกที่สามารถนำสมุนไพรมาบรรจุแคปซูลได้สำเร็จ1988: เป็นผู้นำธุรกิจสมุนไพรที่มีระบบการผลิตขนาดใหญ่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เพียงพอ1992: เริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม1996: ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Inc. 500 ว่าเป็น 1 ใน 100 บริษัทที่เติบโตเร็วสุด


 2001 Rexall + Enrich = Unicity


Tags : Unicity Thailand, ยูนิซิตี้

Pageviews past week